หลุดข้อมูล iPhone 12 ทั้งหน้าจอและสเปกล่าสุดของทั้ง 4 รุ่น



หลุดข้อมูล iPhone 12 Ross Young จากเว็บไซต์ DSCC (Display Supply Chain Consultants) ได้รายงานข้อมูลที่หลุดออกมาล่าสุด เกี่ยวกับ iPhone 12 ของ Apple ที่จะเปิดตัวในปี 2020 นี้ โดยจะใช้แผงเทคโนดลยีหน้าจอ Flexible OLED (สามารถโค้งงอได้) จากทั้ง Samsung Display, BOE และ LG Display

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลสเปกอื่น ๆ ดังนี้

IPHONE 12 (จอ 5.4 นิ้ว)

  • เทคโนโลยีหน้าจอ Flexible OLED จาก Samsung Display (ไม่ใช่ BOE), ระบบสี 8 บิต
  • ส่วนเว้าเล็กลง
  • เทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล Y-OCTA
  • ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (475 ppi)
  • เทคโนโลยี 5G แบบ Sub 6 GHz
  • แรม 4 GB
  • ความจุ 128 GB – 256 GB
  • กล้องหลังคู่ (กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล)
  • ชิปเซ็ต A14 Bionic
  • กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล
  • ราคา 649 เหรียญ (ประมาณ 20,700 บาท)

IPHONE 12 MAX (จอ 6.1 นิ้ว)

  • เทคโนโลยี Flexible OLED จาก BOE และ LG Display เสริมด้วย Touch Sensor, ระบบสี 8 บิต
  • ส่วนเว้าเล็กลง
  • ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล (460 ppi)
  • เทคโนโลยี 5G แบบ Sub 6 GHz
  • แรม 4 GB – 6 GB
  • ความจุ 128 GB – 256 GB
  • สเปกกล้องและบอดีเหมือนกับ iPhone 12
  • ราคา 749 เหรียญ (ประมาณ 23,900 บาท)

IPHONE 12 PRO (จอ 6.1 นิ้ว)

  • เทคโนโลยี Flexible OLED จาก Samsung Display, ระบบสี 10 บิต
  • ส่วนเว้าเล็กลง
  • คาดว่าจะไม่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล Y-OCTA
  • ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล (460 ppi)
  • การแสดงภาพแบบ XDR (Extreme Dynamic Range)
  • อาจมี Refresh Rate ที่ 120 Hz power drain
  • แรม 6 GB
  • ความจุ 128 – 512 GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว (กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล), เซนเซอร์วัดระยะ LiDAR
  • กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล
  • บอดีสเตนเลสสตีล
  • เทคโนดลยี 5G แบบ Sub 6-GHz และ mmWave
  • ราคา 999 เหรียญ (ประมาณ 31,900 บาท)

IPHONE 12 PRO MAX (จอ 6.68 นิ้ว)

  • เทคโนโลยี Flexible OLED จาก Samsung Display พร้อม Y-OCTA, ระบบสี 10 บิต และ XDR
  • อาจมี Refresh Rate ที่ 120 Hz, ไม่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอ LTPO
  • ส่วนเว้าเล็กลง
  • ความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซล (458 ppi)
  • แรม 6 GB
  • ความจุ 128 – 512 GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว (กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล), เซนเซอร์วัดระยะ LiDAR
  • กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล
  • บอดีสเตนเลสสตีล
  • เทคโนดลยี 5G แบบ Sub 6-GHz และ mmWave
  • ราคา 1,099 เหรียญ (ประมาณ 35,200 บาท)

Microsoft จะไม่ออก Image Windows 10 แบบ 32 bit ให้อีกต่อไป ยกเว้นออกให้ผู้ผลิต OEM

Microsoft จะไม่ออก ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ Microsoft จะมีการออก Image สำหรับนำไปลงกับคอมพิวเตอร์เป็น 2 รูปแบบคือ Windows 10 32 bit และ 64 bit ซึ่งล่าสุดนี้ก็มีข่าวออกมาเปิดเผยว่า เวอร์ชั่น 32 bit จะไม่มีตั้งแต่เวอร์ชั่นพฤษภาคม 2020 (V2004) เป็นต้นไป

แม้ว่าเหตุผลนั้นจะแค่ต้องการให้ผู้ใช้ใหม่ไปใช้งานเวอร์ชั่น ุ64 bit เท่านั้น แต่ว่าใครที่ใช้เวอร์ชั่น 32 bit อยู่ก็ยังสามารถใช้ได้ตามปกติ แต่ก็มีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า จะยกเว้นกับผู้ผลิต PC แบบ OEM เท่านั้น เมื่อเทียบกับยุคนี้แล้ว PC เวอร์ชั่น 32 bit ก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว ดังนั้นการยกเลิกเรื่องนี้ คงเป็นธรรมดาแล้วล่ะครับ

อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไป Linux Ubuntu เคยทำสิ่งนี้มาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากนี้คงต้องรอดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะครับ

Facebook สร้างสายเคเบิลใต้ทะเล ที่ยาวรอบโลกเพื่อส่งเน็ตความเร็วสูงให้ 16 ประเทศแอฟริกา



Facebook สร้างสายเคเบิลใต้ทะเล Facebook ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคม China Mobile International, MTN GlobalConnect, Orange, stc, Telecom Egypt, Vodafone และ WIOCC ในการสร้างสายเคเบิลใต้ทะเลที่ยาว 37,000 กม. ซึ่งยาวเท่ากับเส้นรอบวงของโลกด้วยงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในโครงการที่มีชื่อว่า 2Africa เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่น่าเชื่อถือและความเร็วสูงจากยุโรปไปยังตะวันออกกลางและไปสู่ 16 ประเทศในแอฟริกา และยังช่วยนำเสนอแพลตฟอร์ม Facebook ไปสู่คนรุ่นใหม่ในแอฟริกาอีกด้วย

เคเบิลอินเทอร์เน็ตจะพร้อมให้บริการแก่ชาวแอฟริกาภายในปี 2024 โดยจะส่งมอบความจุเป็น 3 เท่าของสายเคเบิลใต้ทะเลที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว สายเคเบิลเส้นทางใหม่นี้จะส่งมอบอินเทอร์เน็ตที่มีความจุมากขึ้นและน่าเชื่อถือไปทั่วแอฟริกา ผนวกกับความต้องการความจุในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และรองรับการเติบโตในอนาคตของ 4G, 5G และการเข้าถึงบรอดแบนด์สำหรับผู้คนหลายร้อยล้านคน

ทวีปแอฟริกามีประชากรถึง 1,3000 ล้านคน ซึ่งการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังคงล้าหลังกว่าส่วนอื่นของโลก โดยมี 4 ใน 10 คนของทั่วทั้งทวีปที่มีการเข้าถึงเว็บ แต่เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกจะอยู่ที่ 6 ใน 10 คนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ใหญ่มหาศาลสำหรับบริษัทและธุรกิจเทคโนโลยีที่จะมีผู้ใช้หรือลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาอีกจำนวนมาก

สายเคเบิลจะลากผ่านไปทั่วทั้งทวีปแอฟริกาที่ 37,000 กม.

สายเคเบิลใต้ทะเลจะใช้ในการนำส่งข้อมูลมหาศาลระหว่างทวีปของโลก ซึ่งช่วยให้จัดการกับข้อมูลได้เพิ่มมากขึ้นและสนับสนุนการสื่อสารข้อมูลที่เร็วขึ้นในต้นทุนที่ต่ำเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น

2Africa จะวางสายเคเบิลใต้ทะเลโดยเครือข่ายเรือดำน้ำ Alcatel ของ Nokia ซึ่งจะแล่นผ่านก้นมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดง ที่สำคัญต้องฝังสายเคเบิลให้ลึกกว่าระบบก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันความเสียหายจากสิ่งต่าง ๆ ภายนอกที่มากขึ้น เช่น สมอที่ใช้ยึดเรือ

Nick Gliddon ผู้อำนวยการบริการวางเครือข่ายของ Vodafone หนึ่งในพันธมิตรของ 2Africa กล่าวว่าบริษัทจะวางสายเคเบิลปูทางสำหรับการพัฒนาธุรกิจดิจิตอลในทวีปนี้ โดยต้องให้ความจุของอินเทอร์เน็ตที่เพียงพอและสร้างสังคมดิจิทัลที่ทันสมัย รวมทั้งบริการถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมาก เช่น คลาวด์คอมพิวติงหรือวิดีโอ นอกจากช่วยภาคธุรกิจแล้วจะยังช่วยปรับปรุงระบบการดูแลสุขภาพและการศึกษาอีกด้วย

ปี 2016 Facebook พยายามเข้าไปมีบทบาทในอินเดียโดยเสนอให้ผู้คนในเขตชนบทของอินเดียเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ฟรี แต่คนอินเดียปฏิเสธเนื่องจากเห็นว่าไม่สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์และบริการออนไลน์ต่าง ๆ ได้ทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน จึงถูกหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมแห่งอินเดีย (TRAI) สั่งห้าม

เมษายนที่ผ่านมา Facebook ได้เปิดเผยผ่านบล็อกว่าจะลงทุน 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน Jio Platforms ของอินเดีย ซึ่งจะทำให้ Facebook เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ใหญ่ที่สุดคิดเป็นสัดส่วนผู้ถือหุ้น 9.99% และเป็นการลงทุนในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของ Facebook การร่วมเป็นหุ้นส่วนทางการค้าของ Jio Platforms และ Facebook จะเป็นการรวมบริการส่งข้อความ WhatsApp ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนในอินเดียเข้ากับ JioMart แพลตฟอร์มการค้าใหม่ของ Reliance Retail ที่เป็นแหล่งรวมผู้ค้ารายย่อยและหลายล้านร้านค้าเพื่อนำเสนอสินค้าไปสู่ผู้บริโภคชาวอินเดียได้ดียิ่งขึ้นโดยการทำธุรกรรมชำระเงินผ่าน WhatsApp

ตุลาคม 2016 Google, Facebook ได้ร่วมมือกับบริษัทด้านการสื่อสาร Pacific Light Data Communication และ TE Subcom วางเครือข่ายเคเบิลนำแสงแปซิฟิก (The Pacific Light Cable Network : PLCN) ที่เชื่อมระหว่างลอสแองเจลิสกับฮ่องกงในระยะทาง 12,800 ก.ม. โดยการติดตั้งตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีเป้าหมายเพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมากทำได้อย่างรวดเร็วประมาณ 120 Tbps และมีแบนด์วิดท์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2019 แต่โครงการนี้อาจจะไม่ได้รับใบอนุญาต เนื่องจากการคัดค้านจาก Team Telecom ซึ่งหากถูกปฏิเสธในการออกใบอนุญาต ก็ถือว่านี่คือครั้งแรกที่สหรัฐปฏิเสธการออกใบอนุญาตเคเบิลใต้ทะเลเนื่องจากความมั่นคงของชาติ

นอกจากเคเบิลใต้ทะเลแล้ว ยังมีบอลลูนอินเทอร์เน็ตที่ชั้นบรรยากาศสทราโทสเฟียร์ของ Loon (บริษัทในเครือเดียวกับ Google) เมื่อ 12 พฤษภาคม ประกาศจะเปิดให้บริการบอลลูนอินเทอร์เน็ต 4G ในประเทศโมซัมบิกที่แอฟริกา และกำลังขยายไปยังพื้นที่ห่างไกลในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งขยายบอลลูนอินเทอร์เน็ตไปทั่วโลกเพื่อเตรียมรับมือภัยพิบัติยามฉุกเฉิน

ที่เล่นใหญ่ก็คือ SpaceX จะยิงดาวเทียม Starlink ทั้งหมด 42,000 ดวงโดยมีเป้าหมายให้บริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมครอบคลุมทั่วทั้งโลก ตอนนี้ SpaceX มีดาวเทียมบรอดแบรนด์แล้วกว่า 400 ดวง ตั้งเป้าว่าปลายปีนี้จะมีมากกว่า 1,000 ดวงและจะเปิดตัวมากกว่า 12,000 ดวงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

และ Amazon ก็จะใช้ดาวเทียม 3,236 ดวงเพื่อให้บริการบรอดแบรนด์ทั่วโลกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม OneWeb ที่จะปล่อยดาวเทียม 1,972 ดวงเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปทั่วโลกอีกด้วย

FTSE ปิดบวก 58.23 จุด ขานรับจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

FTSE

FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตพุ่งขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ แต่ตลาดปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,799.77 จุด เพิ่มขึ้น 58.23 จุด หรือ +1.01%

ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับจีนเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย. โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนนั้น กลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนเม.ย. เนื่องจากกิจกรรมการผลิตที่โรงงานต่างๆ ได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยบังคับใช้ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก

รายงานของ NBS ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีดตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลง 1.1% ในเดือนมี.ค. และทรุดตัวลง 13.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นริโอ ทินโต พุ่ง 4.39%, หุ้นเกล็นคอร์ พุ่ง 3.89%, หุ้นบีเอชพี พุ่ง 4.28%, หุ้นเชลล์ บวก 1.99% และหุ้นบีพี เพิ่มขึ้น 0.02%

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นจากการร่วงลงในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนส่วนใหญ่จากการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลาง และความหวังที่ว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะฟื้นตัวเป็นรูปตัว V

Instagram เพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ รับมือ Cyber Bullying และข้อความ Hate Speech

Instagram เพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ ทาง Facebook ได้ออกมาประกาศถึงรายงานผลของ Community Standards Enforcement Reports ในเดือนพฤษภาคมนี้ว่าจากมาตรการรับมือกับปัญหาการกลั่นแกล้งกันบนสื่อออนไลน์ (Cyber Bullying) และลดปัญหาการใช้ Hate Speech ที่อาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจให้กับเจ้าของแอคเคาท์และผู้ใช้คนอื่นๆ ของทางบริษัทนั้นเป็นไปในทางที่ดีและค่อนข้างน่าพอใจ


จากรายงานพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2019 และไตรมาสทีี่ 1 ของปี 2020 ก็พบว่ามีเปอร์เซ็นของการดำเนินการที่ดีขึ้น โดยมีการตรวจพบข้อความที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองหรือการฆ่าตัวตายและให้การช่วยเหลือผู้ใช้เหล่านั้นเพิ่มขึ้นถึง 40% และตรวจจับข้อความ Hate Speech ก่อนที่ผู้ใช้จะทำการรายงานได้ถึง 89%

ซึ่งทาง Instagram ก็มุ่งหวังว่าจะพัฒนาแอปพลิเคชันให้เป็นแพลทฟอร์มที่ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัยและสบายใจที่จะใช้งานมากยิ่งขึ้น จึงได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์บนแอปพลิเคชันเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าวนี้มากยิ่งขึ้น และก่อนหน้านี้ได้เพิ่มฟีเจอร์การ แจ้งเตือนผู้ใช้ที่พิมพ์ข้อความที่อาจก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ออกมาในช่วงเดือนธันวาคม


และล่าสุดก็ได้ออกมาแนะนำฟีเจอร์ใหม่อีก 3 ฟีเจอร์ ได้แก่ ฟีเจอร์การลบคอมเมนท์ที่ผู้ใช้จะสามารถลบคอมเมนท์ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจออกไปได้สูงสุด 25 คอมเมนท์ในการกดลบ 1 ครั้ง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการไล่ลบทีละคอมเมนท์ รวมทั้งสามารถเลือกบล็อคหรือปิดกั้นการมองเห็นแอคเคาท์ที่ต้องการได้ไปพร้อมๆ กันด้วยเช่นกัน

ปรับปรุงตั้งค่าการอนุญาตแท็กชื่อ โดยสามารถตั้งค่าได้ด้วยการเข้าไปที่เมนู Setting > Privacy และเลือกตั้งค่าการแท็กชื่อทั้งในรูป, เมนชันถึงในคอมเมนท์ และ Stories ต่างๆ ทั้งการอนุญาตให้ทุกคนแท็กชื่อได้, อนุญาตเฉพาะคนที่ติดตาม และไม่อนุญาตให้แท็กชื่อได้จากเมนูนี้

สำหรับทั้ง 2 ฟีเจอร์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็ได้ปล่อยออกมาให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางบริษัทยังได้เร่งพัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วยให้ Instagram น่าใช้งานมากยิ่งขึ้นอย่าง Pinned Comments ที่ผู้ใช้จะสามารถปักหมุดคอมเมนท์ที่ต้องการได้สูงสุดถึง 3 คอมเมนท์ต่อ 1 โพสต์



Google Play Music กำลังปิดตัว แต่คุณสามารถพอร์ต library เพลงไปไว้ใน Youtube Music ได้

Google Play Music กำลังปิดตัว หยุดซัพพอร์ตบริการสตรีมมิ่งเพลง Google Play Music และจะเน้นพัฒนา Youtube Music แทนโดยจะถูกถอดออกจากสโตร์ในช่วงปลายปีนี้แน่นอน อย่างไรก็ตามทาง Google ไม่ได้บอกเวลาที่ชัดเจน แต่ก่อนจะถึงเวลาลูกค้าทุกคนจะได้รับคำเตือนล่วงหน้าเอง

และเพื่อให้ผู้ใช้พอใจ Google เปิดโอกาสให้ผู้ใช้โอนย้ายข้อมูลจาก Google Play Music Library ทั้งรายชื่อศิลปิน, อัลบั้มเพลง, เพลย์ลิสต์ การซื้อเพลง และอื่นๆ ที่บันทึกไว้ทั้งหมด ไปไว้ใน Youtube Music ได้เลย เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการเพลงโปรดของแต่ละคน

สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Youtube Music คืออะไร Youtube Music เป็นบริการเพลงสตรีมมิ่งที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ความพิเศษคือนอกจากจะใช้ฟังเพลงได้แล้วยังผสมผสานมิวสิควิดีโอเพลงจาก Youtube เข้าด้วยกัน ให้คุณสลับมาฟังเพลงอย่างเดียว หรือเปิดมาดูมิวสิควิดีโอไปด้วยก็ยังได้ ซึ่งไม่นานมานี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์การอัปโหลดเพลงเข้าไป ให้คุณได้รังสรรค์เพลงของตัวเองอัปโหลดแชร์ไปบนแอปพลิเคชันอีกด้วย

Youtube Music จะรองรับมือถือที่ใช้ระบบ iOS และ Android ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดจากสโตร์ทั้งสองฝั่งได้แบบฟรีๆ แต่มียังมีให้สมัครบริการพรีเมียม ที่ต้องเสียเงินแบบรายเดือนเพียงแค่ 169 บาท ต่อเดือน โดยจะเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ให้ อย่างเช่นสามารถฟังเพลงจาก Youtube ได้แม้จะปิดหน้าจออยู่ หรือฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าใช้หลายอย่าง

ซึ่งตอนนี้ถ้าใครที่ใช้ของเดิมอยู่ อาจจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ควรทำใจและพยายามหายใจเข้าลึกๆ มองหาปุ่มถ่ายโอนข้อมูล และส่งความทรงจำเสียงเพลงของคุณไปหาสิ่งใหม่ๆ ดีกว่า

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากนายแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานของทำเนียบขาวเตือนว่า ไวรัสโควิด-19 อาจแพร่ระบาดเป็นรอบที่สองในสหรัฐ หากมีการเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 99.43 จุด หรือ -0.49% แตะที่ 20,267.05 จุด


-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวขึ้น ภายหลังจากที่รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกพันธบัตรใหม่ อายุ 10 ปี


ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 18.90 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 5,421.90 จุด ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,513.70 จุด เพิ่มขึ้น 16.40 จุด, +0.30%


-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร หลังราคาหุ้นปรับตัวลดลงในการซื้อขายก่อนหน้านี้ เพราะนักลงทุนมีความวิตกเรื่องข้อพิพาทการค้าระลอกใหม่ระหว่างสหรัฐกับจีน


ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) เพิ่มขึ้น 18.25 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 1,940.42 จุด


-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)


ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 6.49 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,898.05 จุด


-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกสองของโควิด-19 หลังจากที่หลายประเทศได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์


ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 65.38 จุด หรือ -0.27% ปิดวันนี้ที่ 24,180.30 จุด

Facebook และ Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ช่วยค้นหาและสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นง่ายขึ้น



Facebook และ Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ จำนวนหนึ่ง ที่จะช่วยให้ผู้ใช้แอปแสดงการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น และช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและอื่นๆ จากเหตุการณ์ระบาด COVID-19

โดย Facebook แนะนำฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า Businesses Nearby ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้แอปค้นหาผลิตภัณฑ์ ร้านค้า บริการที่ต้องการได้ง่ายขึ้น สามารถมองเห็นโพสต์ล่าสุดจาก Facebook Fanpage ของธุรกิจภายในรัศมีที่กำหนดไว้ กำหนดได้ระยะไกลที่สุดถึง 500 ไมล์

Facebook และ Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ช่วยค้นหาและสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นง่ายขึ้น

นอกจากนี้ Facebook ยังแสดงผลหมวดหมู่ธุรกิจที่ค้นหาเจอทั้งหมด ข้อมูลการจอง การจัดส่งสินค้าเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่าย หรือจะสอบถามกับทางร้านค้า ก็สามารถส่งข้อความถึงกันได้เลย

ส่วน Instagram เปิดให้ผู้ใช้งานสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อม ด้วยการติดสติกเกอร์ Support Small Business และเพิ่มชื่อ IG ของร้านลงบน Story เมื่อลงรูปภาพ วิดีโอเกี่ยวกับร้านค้ารายย่อยที่ชื่นชอบ หรือเมื่อรีวิวสินค้า แต่ถ้าแอปยังไม่อัปเดตสติกเกอร์ ก็สามารถใช้แฮชแท็ก #SupportSmallBusiness แทนได้ และยังนำแฮชแท็กไปติดบนแคปชันใน Facebook ก็ได้เช่นกัน

Facebook และ Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ช่วยค้นหาและสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นง่ายขึ้น

นอกจากนี้ Facebook ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทำงานง่ายขึ้น ด้วยการส่งคำถามใน Facebook Fanpage เข้าสู่แอป Faceboook Messenger โดยตรง และ Facebook เพิ่มเงื่อนไขให้ร้านค้าสามารถติดแท็ก COVID-19 สำหรับโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ทั้งความรู้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่ได้ระบุถึงการซื้อสินค้าแต่อย่างใด

หลายคนจะเริ่มเดาการเปิดตัวของ iPhone 12 ซึ่งคาดว่ายังไงก็ต้องเผยโฉมแน่นอนในปีนี้ว่าจะมีรูปร่างเหลี่ยมสัน, พร้อมกับกล้องหลังที่เพิ่ม LiDAR และจอรองรับ 5G อยู่ แต่ล่าสุดนี้ YouTuber EverythingApplePro ได้มีการวิเคราะห์เกี่ยวกับ iPhone 12 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ว่าจะเป็นอย่างไร 


เบื้องต้นกับขนาดของเครื่องจะอยู่ที่ 6.1 - 6.7 นิ้วสำหรับรุ่น Pro และคาดว่าหน้าจอจะมีค่า Refresh Rate ที่ 120 Hz หรือ 90 Hz เป็นอย่างน้อย โดยใช้หน้าจอ OLED เหมือนเดิม 


ส่วนกล้องนอกจากตัวหลังพัฒนาให้รับแสงได้มากขึ้น คาดว่าจะมีการติดตั้ง LiDAR ที่เคยติดตั้งใน iPad Pro รุ่นล่าสุด และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนเลนส์ Optical Zoom เป็นความละเอียด 3 เท่าด้วยกัน และคาดว่าจะรองรับ 5G และ แบตเตอรี่ในรุ่น Pro Max จะขยายเป็น 4400 mAh  


อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 12 ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรต้องดูจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนเปิดตัวที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ iPhone 12

นอกจาก Google Lens จะทำหน้าที่แปลภาษา ช่วยค้นหาข้อมูล สแกน QR Code ได้ ล่าสุด มีฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้ต้องอึ้ง ทึ่งกันเลยทีเดียว กับการอ่านออกเสียงข้อความที่สแกนไว้ และการ Copy ข้อความไปยังคอมพิวเตอร์อย่างง่ายดาย


หากใครสแกนเอกสารด้วย Google Lens เป็นประจำ นอกจากการลากคลุมเพื่อค้นหาต่อหรือ Copy แล้ว ยังมีปุ่มใหม่อย่าง Listen เพื่อให้ระบบอ่านข้อความออกเสียง เหมาะกับผู้ที่ต้องการคำอ่านที่สงสัย หรือฝึกออกเสียงให้คล้ายกับเจ้าของภาษา ใช้ได้ทั้งกับคำศัพท์ ประโยคและย่อหน้าบทความ


นอกจากนี้ ความสามารถของ Google Lens ไม่จำกัดแค่ข้อความเท่านั้น แต่ยังสามารถประมวลผลลายมือ และย้ายข้อมูลลายมือไปยังคอมพิวเตอร์ได้ ผ่านเบราเซอร์ Chrome ที่ลงทะเบียนไว้ และยังค้นหาข้อมูลผ่านการถ่ายภาพด้วย Google Lens และกดค้นหาเพียงครั้งเดียว


แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ของ Google Lens มีเฉพาะในเวอร์ชัน Android เท่านั้น แต่ใน iOS ก็คงต้องรอไปก่อน แต่คาดว่าอีกไม่นานเกินรอแน่นอน

NFC มาตรฐานใหม่ ชาร์จไร้สายได้ 1W สำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก

 

NFC มาตรฐานใหม่ NFC Forum ประกาศมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ (WLC) โดยสามารถชาร์จได้ด้วยกำลังไฟสูงสุด 1W (หรือ 1 วัตต์)

โดยปกติแล้ว เทคโนโลยีการชาร์จไร้สายจะทำผ่านขดลวดชนิดพิเศษที่ถูกติดตั้งกับตัวอุปกรณ์ ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ เพียงแค่การวางทาบอุปกรณ์กับแท่นชาร์จไร้สายโดยไม่ต้องต่อสายชาร์จใดๆ ซึ่งชิป NFC มาตรฐานใหม่จะใช้ฐานความถี่ 13.56MHz ที่ทำให้ระบบ NFC สามารถถ่ายโอนพลังงานได้ด้วย

การชาร์จผ่าน NFC จะแบ่งโหมดออกเป็น 2 รูปแบบ คือโหมด Static และ Negotiated โดย Static จะใช้สนามความถี่วิทยุที่จ่ายพลังงานคงที่ ส่วน Negotiated จะใช้สนามคลื่นความถี่วิทยุที่สูงกว่าที่รองรับการโอนถ่ายพลังงาน 4 คลาสด้วยกัน ได้แก่ 250, 500, 750 และ 1,000 มิลลิวัตต์

ชาร์จได้เพียง 1W ไว้สำหรับอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก
ในตลาดปัจจุบันอุปกรณ์สมาร์ทโฟนมีความแรงการชาร์จไร้สายในหลักสิบวัตต์ ซึ่งการที่ NFC สามารถทำการชาร์จได้สูงสุดเพียง 1 วัตต์นี้ ก็มีไว้สำหรับอุปกรณ์แกดเจ็ตที่มีแบตเตอรี่ความจุน้อย อย่างเช่นอุปกรณ์ IoT หรือ Wearable อย่างเช่น หูฟังไร้สายที่มี NFC สำหรับใช้งานในตัวอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องพัฒนาให้ใส่ขดลวดเพื่อการชาร์จไร้สาย แต่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการชาร์จได้เลย

สำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่รองรับยังไม่ได้ถูกกล่าวถึงในการประกาศมาตรฐานใหม่นี้ แต่คาดว่าฟังก์ชั่นนี้คงต้องใช้ชิปตัวใหม่ ซึ่งอุปกรณ์ NFC เก่าๆ จะยังไม่รองรับฟีเจอร์ดังกล่าว

Google เปลี่ยนกำหนด ในการขยาย Android 11 Beta ออกไปอีก 1 เดือนและเปิดตัวทางออนไลน์แทน

Google เปลี่ยนกำหนด หลังจากที่ Google ยกเลิกการจัดงาน Google I/O ในแบบเห็นหน้าและเน้นการเปิดทางออนไลน์เพียงอย่างเดียวก็ส่งผลให้ มีการเลื่อน Android 11 Beta ไปถึงเดือนมิถุนายน และเปิดตัวทางออนไลน์แทน ซึ่งมีการเปิดตัว Software ที่เกี่ยวข้องเช่น Jetpack Compose, Android Studio, Google Play เป็นต้น

เมื่อเกิดการเลื่อนปล่อย Beta ออกเป็นมิถุนายน ก็ส่งผลให้ เวอร์ชั่น Beta 2 และ Beta 3 เลื่อนออกไปในเวลา 1 เดือน และคาดว่า เวอร์ชั่น Developer Preview 4 ยังปล่อยเท่าเดิมในเดือน กรกฎาคม โดยเวอร์ชั่นจริงจะมาในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

I BUILT MY SITE FOR FREE USING